ข้อควรระวัง สำหรับการทำเว็บไซต์บริษัท
การ “ทำเว็บไซต์บริษัท” ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ และช่องทางสื่อสารกับลูกค้าในยุคดิจิทัล แต่หลายธุรกิจกลับพบปัญหาหลังจากทำเว็บไซต์เสร็จแล้ว เช่น เว็บไซต์โหลดช้า ไม่รองรับมือถือ หรือไม่มีข้อมูลสำคัญที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักเกิดจากการมองข้าม “รายละเอียดเล็กๆ” ที่สำคัญ
บทความนี้จะพาคุณมาดู ข้อควรระวังในการทำเว็บไซต์บริษัท ที่ควรรู้ก่อนเริ่มต้น เพื่อให้เว็บไซต์ออกมาดูดี ใช้งานได้จริง และช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจได้อย่างเต็มที่
- ทำเว็บไซต์บริษัทให้รองรับมือถือ สำคัญแค่ไหน
- ทำเว็บไซต์บริษัท ให้โหลดเร็วมีผลต่อธุรกิจอย่างไร
- 7 ฟีเจอร์เว็บ B2B 2025 ที่บริษัททำเว็บไซต์ต้องรู้
1. ไม่วางเป้าหมายเว็บไซต์ให้ชัดเจน
ก่อนจะเริ่มทำเว็บไซต์บริษัท สิ่งแรกที่ควรคิดคือ “ทำเว็บไซต์ไปเพื่ออะไร?”
บางบริษัททำเว็บไซต์เพราะต้องการแค่มีไว้ ไม่ได้วางเป้าหมายให้ชัดเจนว่าจะใช้เพื่ออะไร เช่น เพื่อขายของ เพื่อแสดงผลงาน หรือเพื่อให้ลูกค้าติดต่อกลับ
หากไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เว็บไซต์จะไม่มีทิศทาง เนื้อหากระจัดกระจาย และไม่ตอบโจทย์ลูกค้า ดังนั้นก่อนเริ่มทำเว็บไซต์บริษัท ควรกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัด เช่น
- ต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์
- ต้องการให้ลูกค้ารู้จักบริษัทมากขึ้น
- ต้องการช่องทางให้ลูกค้าติดต่อได้สะดวก
เมื่อรู้จุดประสงค์ ทีมออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ก็จะสามารถวางโครงสร้างและเนื้อหาได้ตรงจุดมากขึ้น
2. ลอกดีไซน์คนอื่นโดยไม่คำนึงถึงแบรนด์ตัวเอง
เจ้าของธุรกิจหลายคนเห็นเว็บไซต์ของคู่แข่งหรือแบรนด์ใหญ่แล้วรู้สึกชอบดีไซน์นั้น จึงบอกทีมพัฒนาให้ “ทำแบบนี้เลย” แต่สิ่งที่ควรเข้าใจคือ เว็บไซต์ควรสะท้อน “เอกลักษณ์ของบริษัทคุณเอง” ไม่ใช่ของคนอื่น
การทำเว็บไซต์บริษัทโดยลอกโครงสร้างหรือดีไซน์คนอื่นมา อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณดูไม่แตกต่าง และไม่สะท้อนตัวตนของธุรกิจ การออกแบบเว็บไซต์ควรสื่อถึงแบรนด์ โลโก้ สี และบุคลิกของบริษัท เพื่อให้ลูกค้าจดจำได้ตั้งแต่แรกเห็น
3. เนื้อหา (Content) ไม่ชัดเจนหรือไม่ครบถ้วน
แม้เว็บไซต์จะออกแบบสวย แต่ถ้าเนื้อหาไม่ชัดเจน ลูกค้าก็จะไม่เข้าใจว่าบริษัทของคุณทำอะไร บริการอะไรบ้าง และมีจุดเด่นอย่างไร
ข้อควรระวัง:
- เขียนเนื้อหายืดยาวเกินไปโดยไม่สื่อสารประเด็นหลัก
- ไม่มีหน้า “เกี่ยวกับเรา” หรือ “ติดต่อเรา” ที่ครบถ้วน
- ใช้ภาษาทางการมากเกินไปจนอ่านยาก
ทางที่ดีควรจัดทำเนื้อหาให้กระชับ เข้าใจง่าย และใช้ภาษาที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้า เช่น
- ใช้หัวข้อย่อยชัดเจน
- มีรูปภาพประกอบจริงจากบริษัท
- ใส่ข้อมูลติดต่อครบ เช่น เบอร์โทร อีเมล แผนที่ หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย
4. เว็บไซต์ไม่รองรับมือถือ (Mobile Friendly)
ในยุคที่คนส่วนใหญ่ใช้มือถือค้นหาข้อมูล เว็บไซต์บริษัทที่ไม่รองรับมือถือถือว่าพลาดมาก เพราะลูกค้าจะมองว่าเว็บไซต์ใช้งานยาก และอาจกดออกจากเว็บทันที
Google ยังให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่เป็น Mobile-Friendly ด้วย หากเว็บไซต์ของคุณไม่รองรับมือถือ โอกาสที่จะติดอันดับในการค้นหาก็จะน้อยลง
แนวทางที่ควรทำ:
- ออกแบบเว็บไซต์แบบ Responsive Design
- ทดสอบการแสดงผลในหลายขนาดหน้าจอ
- ปรับขนาดปุ่ม ตัวอักษร และภาพให้เหมาะกับมือถือ
5. ใช้รูปภาพไม่เหมาะสมหรือไม่มีคุณภาพ
ภาพคือสิ่งแรกที่ลูกค้าจะเห็นก่อนอ่านข้อความ หากเว็บไซต์บริษัทของคุณใช้ภาพไม่ชัด ภาพแตก หรือภาพจากเว็บฟรีที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ จะทำให้เว็บไซต์ดูไม่น่าเชื่อถือ
ข้อควรระวัง:
- ใช้ภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์
- ใช้ภาพขนาดใหญ่เกินไปจนทำให้เว็บไซต์โหลดช้า
- ใช้ภาพที่ไม่สื่อถึงบริการจริงของบริษัท
ควรใช้ภาพจริงของบริษัท เช่น ภาพทีมงาน ภาพสถานที่ หรือผลงานจริงของลูกค้า เพราะจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือได้ดีกว่าภาพสต็อกทั่วไป
6. เว็บไซต์โหลดช้า
ความเร็วเว็บไซต์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มักถูกมองข้าม เว็บไซต์ที่โหลดช้ากว่า 3 วินาที มีโอกาสที่ผู้เข้าชมจะกดออกสูงถึง 50% และยังส่งผลต่ออันดับ SEO ด้วย
วิธีป้องกัน:
- ลดขนาดไฟล์รูปภาพและวิดีโอ
- ใช้ระบบแคช (Cache)
- เลือกโฮสติ้งคุณภาพสูง
- ตรวจสอบความเร็วด้วยเครื่องมือ Google PageSpeed Insights
7. ไม่มีการวัดผลหรือเก็บสถิติการเข้าใช้งาน
เมื่อทำเว็บไซต์บริษัทเสร็จแล้ว หลายคนมักปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ตรวจสอบผลลัพธ์ ทำให้ไม่รู้เลยว่าเว็บไซต์มีผู้เข้าชมหรือไม่ และลูกค้าสนใจส่วนไหนมากที่สุด
ควรติดตั้งเครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Google Analytics หรือ Google Search Console เพื่อดูข้อมูลจริง เช่น
- มีคนเข้าชมจากช่องทางไหน
- หน้าใดมีผู้เยี่ยมชมมากที่สุด
- คีย์เวิร์ดอะไรที่ลูกค้าใช้ค้นหา
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์ SEO และพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้เรื่อย ๆ
8. ไม่คำนึงถึง SEO ตั้งแต่แรก
เว็บไซต์ที่ไม่มีการวางโครงสร้าง SEO จะยากต่อการถูกค้นพบบน Google การทำเว็บไซต์บริษัทที่ดีควรออกแบบโดยคำนึงถึง SEO ตั้งแต่เริ่มต้น เช่น
- การตั้งชื่อหน้า (Page Title) และคำอธิบาย (Meta Description)
- การใช้คีย์เวิร์ด เช่น “ทำเว็บไซต์บริษัท” ในจุดสำคัญของเนื้อหา
- การใส่ Alt Text ให้รูปภาพ
- การทำโครงสร้างลิงก์ภายใน (Internal Link) ที่ชัดเจน
9. ไม่มี Call-to-Action (CTA) ที่ชัดเจน
เว็บไซต์บริษัทที่ดีควรมีจุดกระตุ้นให้ลูกค้าทำบางอย่าง เช่น “ติดต่อเรา” “ขอใบเสนอราคา” หรือ “ดูผลงานเพิ่มเติม” แต่หลายเว็บไซต์ไม่มีจุดนี้ ทำให้ลูกค้าไม่รู้จะไปต่อยังไง
การวางปุ่ม CTA ที่โดดเด่นในตำแหน่งที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นลูกค้าจริง
10. ไม่มีการอัปเดตข้อมูล
เว็บไซต์ที่ปล่อยทิ้งไว้นานโดยไม่อัปเดต จะดูเหมือนถูกละเลย ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “บริษัทนี้อาจไม่ทำงานแล้ว” หรือ “ไม่มีความเคลื่อนไหว” ควรอัปเดตข่าวสาร บทความ หรือผลงานใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการดำเนินงานอยู่ตลอดเวลา
การทำเว็บไซต์บริษัทไม่ใช่เพียงแค่มีหน้าเว็บสวย ๆ แต่คือการสร้างเครื่องมือทางธุรกิจที่ทำงานแทนคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเล็ก ๆ เหล่านี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณทั้งน่าเชื่อถือ ใช้งานง่าย และสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้จริง
หากคุณกำลังวางแผนทำเว็บไซต์บริษัท ลองทบทวนข้อควรระวังเหล่านี้ก่อนเริ่มต้น เพราะเว็บไซต์ที่ดีไม่ได้แค่ “ดูดี” แต่ต้อง “ทำงานได้ดี” และสร้างโอกาสให้กับธุรกิจของคุณในระยะยาว
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Tel: 02-9504253
Phone: 0803926941
Email: INFO@KTNDEVELOP.COM
Facebook: KTn develop
Line OA : @KTNDEVELOP




