ดูแลเว็บไซต์ด้วยการทำ Off-Page แตกต่างกับ On-Page อย่างไร (2)

ดูแลเว็บไซต์ด้วยการทำ Off-Page แตกต่างกับ On-Page อย่างไร ?

ดูแลเว็บไซต์ด้วยการทำ Off-Page แตกต่างกับ On-Page อย่างไร ?

ดูแลเว็บไซต์ด้วยการทำ Off-Page แตกต่างกับ On-Page อย่างไร ? ธุรกิจใครที่เพิ่งมีเว็บไซต์และกำลังเริ่มดูแลเว็บไซต์พร้อมกับทำ SEO ไปด้วย แน่นอนว่าจะต้องได้ยินหรือรู้จักคำว่า Off-Page กันมาบ้าง สิ่งนี้นับเป็นกลยุทธ์ของการดูแลเว็บไซต์และปรับปรุงการทำ SEO ที่สำคัญ และช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกจัดอันดับจาก Google ได้รวดเร็วมากขึ้น แต่การทำ Off Page คืออะไร ต่างจากการทำ On-Page SEO อย่างไร บทความนี้จะช่วยทำให้คุณเข้าใจมากขึ้นค่ะ

ดูแลเว็บไซต์ด้วยการทำ Off-Page แตกต่างกับ On-Page อย่างไร ?

Off-page SEO คืออะไร

Off-Page เป็นการทำ SEO ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยภายนอก เป็นส่วนช่วยเสริมทำให้การจัดอันดับดีขึ้น ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และชูว่าเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพมากแค่ไหน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถเจอเว็บไซต์ของคุณจากการ Search หาที่นอกเหนือจาก Google อีกด้วย

การทำ Off-Page SEO ฉบับมือใหม่พร้อมลุย

  1. การทำ Link Building เป็นแกนหลักที่สำคัญในการทำ Off Page SEO เพราะต้องใช้ความเกี่ยวข้องในด้านคุณภาพ และยังต้องเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์คุณอีกด้วย และสิ่งที่ต้องคำนึกถึงเกี่ยวกับการทำ Off-Page SEO นั่นก็คือการทำ Backlink ให้เว็บไซต์มีคุณภาพ และน่าเชื่อถือนั่นเอง โดยเทคนิคการทำนั่นก็คือ
  • ทำ Backlink ด้วยเว็บไซต์ที่มี Organic Search Traffic สูงหรือเว็บที่ติดอันดับบน Google ใน Ranking สูง ๆ
  • มีจำนวน User ใช้งานเป็นจำนวนมาก
  • คุณสามารถสร้าง Link Building ที่มีคุณภาพจากโดเมนที่ไม่ซ้ำกัน เพราะนั่นจะได้ผลดีกว่าการใช้ลิงก์โดเมนเดิม ๆ
  • ลิงก์คุณภาพควรจะมาจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องหรือยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันกับคุณ เช่น หากคุณทำเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องสำอางเว็บไซต์ที่ส่ง Backlink กลับมาก็ควรจะเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกัน เพื่อช่วยให้ผู้อ่านอยู่ในเว็บไซต์นานขึ้น

  1. Brand Building การสร้างแบรนด์เพื่อให้เป็นที่รู้จักเป็นสิ่งสำคัญของการทำการตลาดออนไลน์เลยก็ว่าได้ เพราะกว่า 87% ของผู้บริโภคอ่านรีวิวออนไลน์ และตัวชี้วัดว่าแบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักมากแค่ไหนลองใช้เครื่องมือฟรีจาก Google ตรวจสอบได้เช่นกัน นั่นคือเครื่องมือ Google Trend ซึ่งจะช่วยให้คุณทราบการเติบโตของธุรกิจคุณได้ ยกตัวอย่างแบรนด์ค่ายมือถือยักใหญ่อย่าง Samsung และ Apple และถ้าหากแบรนด์ของคุณมีการเติบโต เป็นที่รู้จัก มีคนค้นหา แน่นอนว่า ก็จะช่วยให้ Google เข้าใจเว็บไซต์และมองเห็นความน่าเชื่อถือของคุณ อีกทั้งคุณจะได้รับ Natural Backlink ที่เกิดจากเว็บไซต์อื่นทำการอ้างอิงเนื้อหา เขียนถึงและทำลิงก์กลับมาให้เอง โดยไม่ต้องจ่ายเงินเลย
  2. Content Marketing หลายคนจะเข้าใจว่าทำคอนเทนต์ควรทำในเว็บไซต์ On-Page เท่านั้นแต่จริง ๆ แล้วการทำคอนเทนต์ที่ดีสามารถทำได้ทุกที่เพราะคอนเทนต์ที่ดีมักเป็นประโยชน์กับผู้อ่านอยู่แล้วเช่น การทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์แล้วนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ใหญ่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ หรือการทำ Infographic, Research papers, E-book หรือคอนเทนต์อื่น ๆ ที่มีคุณค่า มีประโยชน์ เนื้อหามีคุณภาพมากพอที่คนจะแชร์ต่อหรือได้รับการอ้างอิงได้ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รับทั้ง Backlink ที่มีคุณภาพ ชื่อเสียงของเว็บไซต์ ไปจนถึงการประชาสัมพันธ์ที่ Search Engine มองแล้วว่า เว็บไซต์ของคุณควรได้รับอันดับที่ดีขึ้นใน Keyword ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเหล่านั้นด้วย
  3. Social Media Backlink ที่มาจากช่องทาง Social Media หากผู้คนบนโลก Social เลือกที่จะกระทำ engagement ใด ๆ ที่มากพอ Google ก็จะมองว่า เว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพในสังคมได้เช่นกัน
  4. Reviews รีวิวมีหน้าที่สำคัญที่ช่วยให้ผู้คนบนโลกออนไลน์เกิดการตัดสินใจกับสิ่งนั้น ๆ ได้ หากคุณสามารถรีวิวธุรกิจให้เป็นประโยชน์และเกิดผลบวกกับกลุ่มลูกค้าก็จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ และช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ทั้งยังส่งสัญญาณให้กับ Google ได้ทราบอีกด้วยว่าแบรนด์ของคุณกำลังถูกจับตานะ

หากท่านใดสนใจใช้บริการรับทำ SEO จากบริษัทที่มากความเป็นมืออาชีพ มีผลงานด้านงานทำ SEO อย่างมากมาย ลองมาใช้บริการรับทำ SEO จากบริษัท KTn Develop ดูสิคะ รับรองได้เลยค่ะว่าเราจะพาเว็บไซต์ของคุณขึ้นไปอยู่บนตำแหน่งที่ดีที่สุดของ Google ได้อย่างแน่นอนค่ะ เพราะเราใช้เทคนิคการทำ SEO ที่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่ Google ได้กำหนดไว้ รับรองว่าหมดกังวลเรื่องปัญหาที่เรากล่าวไว้ข้างต้นอย่างแน่นอนค่ะ

สนใจติดต่อได้ที่

Tel: 02-9504253

Phone: 062.424.1394

Email: INFO@KTNDEVELOP.COM

Facebook: KTn develop

Line OA : @KTNDEVELOP