13 คำศัพท์ต้องรู้ หากคิดจะทำ Google Ads

13 คำศัพท์ต้องรู้หากคิดจะทำ Google Ads

13 คำศัพท์ต้องรู้หากคิดจะทำ Google Ads

13 คำศัพท์ต้องรู้หากคิดจะทำ Google Ads สำหรับนักธุรกิจหรือนักการตลาดมือใหม่หลายๆ ท่านที่พึ่งเริ่มหัดทำโฆษณา Google Ads ด้วยตัวเองอาจจะยังคงไม่เข้าใจในบางคำศัพท์ ยิ่งในบางคำที่เป็นศัพท์เฉพาะที่ใช้ในด้านนี้ หรือบางครั้งก็มักแสดงเป็นตัวย่อ ก็ยิ่งทำให้นักธุรกิจหรือนักการตลาดมือใหม่สับสนเข้าไปอีก วันนี้แอดมินจึงรวบรวมคำศัพท์พื้นฐานที่ควรรู้ ในการทำโฆษณา Google Ads พร้อมความหมายมาฝากค่ะ

1.Keywords

คือ คำที่เราใช้ Search หาข้อมูลหรือสิ่งที่เราต้องการลงบน Google ตัวอย่างเช่น เราอยากหาบริษัทรับทำโฆษณา Google Ads เราก็พิมพ์ไปว่า “ทำโฆษณา Google Ads” หรือหากจะเจาะจงลึกลงไปอีกในเรื่องของราคา ก็อาจจะพิมพ์ไปว่า “ทำโฆษณา Google Ads ราคาถูก” เป็นต้น Keyword เหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อการทำโฆษณา Google Ads ของคุณเป็นอย่างยิ่ง เพราะ Keyword เป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้ลงโฆษณา และกลุ่มคนที่เสิร์ชค้นหาหรือกลุ่มเป้าหมายของเรานั่นเอง

2.Bid

คือ ราคาสูงสุดที่ผู้ลงโฆษณาเป็นผู้กำหนด เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายกดเข้ามาดูโฆษณาของเรา และเรา (ผู้สร้างโฆษณา) จะเสียเงินตรงนี้ก็ต่อเมื่อมีคนเข้ามาคลิกที่โฆษณาเราเท่านั้นค่ะ

3.Quality Score

คือ คะแนนที่ทาง Google จะเป็นผู้ประเมินให้กับโฆษณาของเราว่ามีคุณภาพมากน้อยเพียงใด และมีความเกี่ยวข้องกับ Keyword หรือตัวโฆษณามากน้อยเพียงไหน โดยคะแนนคุณภาพที่ดีที่สุดคือ 10 ยิ่งคะแนน Quality Score สูง ก็จะยิ่งทำให้ราคาโฆษณาของคุณถูกลงไปอีก และมีโอกาสที่จะแสดงอยู่ในลำดับที่สูงขึ้น มีคนเห็นง่ายขึ้นโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะเลยค่ะ

4.Impr. หรือ Impressions

คือ จำนวนการแสดงผลของโฆษณาของคุณ ในทุกครั้งที่โฆษณา Google Ads ของคุณถูกโหลดขึ้นมาแสดง จะถูกนับเป็น 1 Impression ทันที ในส่วนนี้คนมักจะเข้าใจกันว่า Impression คือจำนวนครั้งที่คนเห็นโฆษณาของเราเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วนั้นเพียงแค่มีการโหลดขึ้นมาแสดงอีกครั้ง ก็นับเป็น 1 Impression แล้ว โดยไม่สนใจว่าผู้เสิร์ชจะเห็นหรือไม่เห็นโฆษณา Google Ads ของเรา

5.Click

คือ จำนวนครั้งที่โฆษณา Google Ads ของเราถูกคลิก เช่น มี Click 100 เท่ากับว่ามีคนคลิกมายังโฆษณา Google Ads ของเราจำนวน 100 คลิก และแม้จะเป็นผู้คลิกคนเดิมที่ทำการคลิกโฆษณาซ้ำ ระบบก็จะนับเป็น 1 คลิกเช่นกัน

6.CTR หรือ Click Through Rate

คือ จำนวนที่บอกเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ทำการคลิกเมื่อเห็นโฆษณาของเรา ซึ่งวิธีคำนวณเปอร์เซ็นต์ที่ปรากฏตรงนี้ก็ง่ายมากค่ะ สูตรคำนวณคือ CTR = (Clicks/impression) x 100 ตัวอย่างเช่น ถ้ามีคนคลิกโฆษณาเรา 100 ครั้ง การแสดงผลโฆษณาอยู่ที่ 2,000 ครั้ง CTR = (100/2,000) x 100 = 5% และยิ่งมีจำนวนเปอร์เซ็นต์ CTR ยิ่งสูงก็จะยิ่งดี เพราะเปอร์เซ็นต์ CTR (Click Through Rate) ที่แสดงสามารถทำให้เราทราบได้ว่าโฆษณาของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด หรือได้รับผลตอบบรับจากกลุ่มลูกค้าตามเป้าหมายที่ได้วางไว้หรือไม่

7.CPC หรือ Cost Per Click

คือ ราคาต่อคลิก สามารถคำนวณได้จากการนำราคาค่าโฆษณาทั้งหมดของเรา นำมาหารด้วยจำนวนการคลิกที่เราได้รับทั้งหมดของแคมเปญ ก็จะได้ออกมาเป็น CPC (Cost Per Click) นั่นเองค่ะ

8.CPM หรือ Cost Per Impression

คือ ค่าคลิกต่อ 1,000 ครั้งที่มีคนเห็นโฆษณา Google Ads ของเรา หรือหากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายๆ เลย CPM (Cost Per Impression) คือต้นทุนต่อการแสดงผล 1,000 ครั้ง ซึ่งโฆษณานี้สามารถเป็นได้ทั้งรูปภาพหรือจะแบบข้อความก็ได้ โดยจะมีการกำหนดตำแหน่งเป้าหมายเสมอ

9.CPA หรือ Cost Per Acquisition

คือ ค่าคลิกต่อ Conversion จะสามารถเห็นค่าโฆษณารูปแบบนี้ได้จากการทำโฆษณาจำพวก Lead Generation หรือการคลิกเพื่อเข้าไปทำกิจกรรมบางอย่างผ่านโฆษณาของเรา หรือหากจะให้แอดมินอธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายๆ เลยก็คือ การเก็บเงินเมื่อเกิดกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นบนโฆษณาของคุณ โดยกิจกรรมที่ว่านั้นอาจจะต้องมีการขอข้อมูล หรือล็อกอินเข้าสู่ระบบ เป็นต้นค่ะ

10.AVG. Pos. หรือ Average Position

คือ การบ่งบอกตำแหน่งโดยเฉลี่ยของโฆษณา Google Ads ของเรา เมื่อเทียบกับโฆษณาอื่นๆ โดยตำแหน่งที่ดีที่สุดคือ ที่ 1 แต่ถึงแม้ว่าในค่าเฉลี่ยจะแสดงว่าเราเป็น 1 ก็ไม่ได้หมายความว่าโฆษณาของเราจะสามารถปรากฏอยู่อันดับ 1 ในการแสดงผลทุกครั้ง เพราะตัวเลขที่เห็นเป็นเพียงค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่านั้น

11.AVG. CPC หรือ Average Cost Per Click

คือ ราคาเฉลี่ยที่ต้องจ่ายเมื่อมีคนคลิกโฆษณา 1 ครั้ง ระบบของ Google จะคำนวณโดยการนำราคาค่าโฆษณารวมแล้วหารด้วยจำนวนคลิกทั้งหมดของแคมเปญนั้นๆ

12.Conversion

คือ การกระทำบางอย่างที่เราต้องการจากผู้เข้าชมเว็บไซต์ของเรา ซึ่งตัว Conversion นี้อาจจะเป็นการกดเพื่อโทร การสมัครสมาชิก การลงทะเบียน การสมัครรับข้อมูลข่าวสาร และอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มเป้าหมายมีการ take action ตามที่ผู้สร้างโฆษณาได้ตั้งเป้าหมายของแคมเปญนั้นไว้

13.Bounce Rate

คือ ตัวเลขที่จะบ่งบอกสัดส่วนของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ แต่ไม่ได้กดเพื่อไปทำอะไรต่อจากนั้น หรือกล่าวง่ายๆ คือการเข้ามาแล้วก็ออก หากมี Bounce Rate ที่สูง อย่าพึ่งดีใจไปนะคะ เพราะยิ่งสูงยิ่งหมายความว่าเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพน้อยหรือไม่ถูกใจผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์มากพอ สำหรับตัว Bounce Rate ยิ่งต่ำยิ่งดีค่ะ ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์ของเรานั้นมีคุณภาพหรือมีเนื้อหาที่น่าสนใจเพียงพอที่จะทำให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์กดไปยังหน้าอื่น เเต่ค่า Bounce Rate นี้สามารถใช้วัดได้กับเว็บไซต์ที่มีหลายๆ หน้าเท่านั้น เนื่องจากเว็บไซต์หน้าเดียวค่า Bounce Rate ย่อมเป็น 100% อยู่เเล้ว

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 13 คำศัพท์ต้องรู้หากคิดจะทำ Google Ads ที่แอดมินได้นำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าข้อมูลที่แอดมินนำมาฝากจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆ คนนะคะ คราวหน้าแอดมินจะมีข้อมูลดีๆ อะไรเกี่ยวกับการทำโฆษณา Google Ads มาฝากเพื่อนๆ อีก ก็อย่าลืมติดตามกันได้ในบทความหน้านะคะ

สำหรับธุรกิจใดที่ต้องการทำโฆษณา Google Ads ต้องการผู้ช่วย ผู้ดูแล ที่ปรึกษา หรือสนใจทำธุรกิจบนตลาดออนไลน์ เรามีทีมงานมากประสบการณ์พร้อมให้คำปรึกษาด้านการทำโฆษณา Google Ads อย่างเต็มที่ KTn develop เรายินดีให้บริการ การันตีผลลัพธ์และเห็นผล สามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนค่ะ

สนใจให้เราดูแลเว็บไซต์ของท่านหรือปรึกษาเรื่องการออกแบบสามารถติดต่อมาได้ที่

เบอร์ติดต่อ: 02-9504253

Phone: 065 – 621 – 6594

Email: INFO@KTNDEVELOP.COM

Facebook: KTn develop

Line OA: @KTNDEVELOP