ความแตกต่างระหว่าง SEO กับ SEM

ความแตกต่างระหว่าง SEO กับ SEM ที่คุณอาจจะยังไม่รู้

ความแตกต่างระหว่าง SEO กับ SEM ที่คุณอาจจะยังไม่รู้

ความแตกต่างระหว่าง SEO กับ SEM
ความแตกต่างระหว่าง SEO กับ SEM ที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความแตกต่างระหว่าง SEO กับ SEM ที่คุณอาจจะยังไม่รู้

SEM ย่อมาจากคำว่า “Search Engine Marketing” เป็นการผสมคำกันระหว่างคำว่า “Search Engine” คือเครื่องมือค้นหาบนอินเตอร์เน็ต และคำว่า “Marketing” หรือ การตลาด ดังนั้น คำว่า “SEM” หรือ “Search Engine Marketing” จึงหมายถึง การทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเตอร์เน็ต” 

  • ข้อดี คือ ใช้ระยะเวลาที่สั้นในการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับแรกในหน้าแสดงการค้นหาบน Google เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • ข้อเสีย คือ มีค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณาค่อนข้างสูง รวมถึงมีการแข่งขันสูงใน Keyword ที่เป็นที่นิยม ทำให้ราคาไม่แน่นอน หากธุรกิจของคุณมีสินค้าและบริการที่เฉพาะกลุ่ม ค่าโฆษณาจะถูกลงและคู่แข่งขันน้อย แต่ถ้าหากธุรกิจของคุณสินค้าและบริการเป็นที่นิยมมาก คู่แข่งขันก็จะสูงขึ้น และค่าโฆษณาจะแพงขึ้นเป็นเท่าตัว

การทำ SEM สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้

ความแตกต่างระหว่าง SEO กับ SEM ที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ

  1. PPC คือ ส่วนของพื้นที่โฆษณา Paid Search หรือ Search Advertising ซึ่งอยู่ในหน้า Search Result Page เช่นกัน แต่ในส่วนนี้ผู้ลงโฆษณาต้องจ่ายเงินให้กับ Search Engine เมื่อมีการคลิกเปิดเข้าไปดูเว็บไซต์ ดังนั้น PPC จึงมีข้อแตกต่างกับ SEO ตรงที่สามารถแสดงผลในลำดับต้น ๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างในเว็บไซต์ เพียงแค่ประมูล Keyword ที่ต้องการ เว็บไซต์ก็สามารถแสดงอยู่ในอันดับต้น ๆ ได้
  • ข้อดี คือ โฆษณาที่ทำสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และจะเห็นผลได้ทันที โดยไม่ต้องใช้เวลาเตรียมการนาน
  • ข้อเสีย คือ เมื่อไม่มีการชำระเงินค่าโฆษณา การโฆษณาจะหยุดทันที ทำให้ต้นทุนการทำโฆษณาสูงมากยิ่งขึ้น

ความแตกต่างระหว่าง SEO กับ SEM ที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ

  1. SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization หมายถึง การทำการตลาดออนไลน์ เพื่อทำให้เว็บไซต์ธุรกิจของคุณ ติดอันดับ Search engine ยอดนิยม เพื่อช่วยดึงผู้คนให้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น เมื่อมีการค้นหาด้วย Keyword ที่กำหนดเอาไว้โดยไม่ได้ซื้อโฆษณา
  • ข้อดี คือ สร้างความน่าเชื่อถือได้ดี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณา ประหยัดงบประมาณ สามารถหาลูกค้าใหม่ได้ตรงกับเป้าหมายมากขึ้น
  • ข้อเสีย คือ ใช้ระยะเวลายาวนานในการทำให้ติดอันดับบน Google หากเว็บไซต์ของคุณมี Keyword ที่ไม่เสถียร หรือไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย อันดับจะตกลงทันที และหากเป็นเช่นนั้น การทำให้เป็นที่รู้จักจะเป็นไปได้ยากมากขึ้น

สรุปได้ว่า ข้อได้เปรียบของการทำ PPC นั้นคือโฆษณาที่ทำจะเห็นผลได้ทันที ไม่ต้องใช้เวลาเตรียมการนานเท่ากับการทำ SEO อีกทั้งยังสามารถปรับเพิ่ม Keyword ได้ตลอดเวลา และยังสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทันทีทันใด แต่การซื้อโฆษณาแบบ PPC จะเสียเปรียบ SEO ตรงที่ เมื่อหยุดการชำระค่าโฆษณา การทำงานของโฆษณาก็จะหยุดไปด้วย ต่างจาก SEO ที่เมื่อทำไปแล้วจะเห็นผลได้ดีในระยะยาว

KTn develop เรามีความเชี่ยวชาญและพร้อมให้บริการทั้งการดูแลเว็บไซต์ การทำ SEO และการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ

สนใจออกแบบดูแลโปรโมทเว็บไซต์หรือปรึกษาเรื่องการออกแบบสามารถติดต่อมาได้ที่

Tel : 02-9504253
Phone : 062-426-1964
Email : INFO@KTNDEVELOP.COM
Facebook : KTn develop
Line OA : @KTNDEVELOP